
ตัวอย่างเสรีภาพในการพูดเป็นอย่างไร
‘เสรีภาพในการพูด’ หรือ ‘Freedom of speech’ คือ สิทธิทางการเมือง ในการสื่อสารคำพูดของบุคคล ทั้งพูด, แสดงออกถึงท่าทาง, สื่อสารด้วยตัวหนังสือ ทั้งกระดาษและในโลกออนไลน์ รวมทั้งรูปแบบอื่นๆ เช่น เสียงเพลง, ภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น โดยสิทธิเสรีภาพในการพูด ไม่ได้มีในทุกประเทศ
สำหรับสิทธิเสรีภาพในการพูด จัดเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชน ข้อ 19 แห่งปฏิญญาสากลเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการได้รับความยอมรับในกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เรื่องสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คือ มนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการพูด โดยสิทธินี้รวมไปถึงเสรีภาพค้นหา, ได้รับ และส่งต่อข้อมูลต่างๆ อย่างเสรี ตลอดจนความคิดในทุกรูปแบบ โดยไม่จำกัดขอบเขต ทั้ง พูด, เขียน, พิมพ์ ในรูปแบบของศิลปะ หรือผ่านสื่อต่างๆ ที่เป็นทางเลือกของเขา แต่ถึงกระนั้นก็ตามการใช้สิทธิเหล่านี้มีก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบบางข้อ ด้วยเหตุนี้จึงต้องถูกจำกัดบ้าง โดยต้องคำนึงถึงความเคารพต่อสิทธิของผู้อื่น หรือเพื่อปกครองความมั่นคงของชาติตลอดจนรักษาความสงบสุขเรียบร้อย รวมทั้งไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม
ระดับบุคคลธรรมดา เสรีภาพในการพูดทำให้มนุษย์แต่ละคนสามารถแสดงตัวตน ทำให้เกิดความแตกต่างจากผู้อื่น ไม่ว่าจะผ่านการพูดออกจากปาก, การเขียน Status บน Facebook หรือสื่อโซเชี่ยวอื่นๆ รวมถึง การแสดงออกในรูปแบบอื่นๆ โดยปัจจัยที่สำคัญ ณ ปัจจุบันนี้ก็คือ เมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับความไม่เป็นธรรมที่ไม่อาจนำผู้กระทำผิดมารับผิดชอบได้ เช่น ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐข่มขู่ บุคคลนั้นก็มีเสรีภาพ ที่จะโพสเรื่องราวเหล่านั้นลงสื่อสังคมออนไลน์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ตนได้
สำหรับในระดับชุมชน – สังคมระดับประเทศที่มีขนาดใหญ่ เสรีภาพในการพูด ก็จัดเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีไว้ให้คนในชุมชนหรือประชาชนในประเทศ ใช้เพื่อสื่อสารกับรัฐในการสะท้อนปัญหาต่างๆ ออกมาอย่างตรงจุด เพื่อให้เกิดการปรับปรุงต่อไปในอนาคต ขอยกตัวอย่างจากเหตุการณ์จริง คือ ชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ พวกเขาจึงสร้าง Facebook ขึ้น เพื่อเผยแพร่เรื่องราวเหล่านี้ต่อสาธารณะชน ซึ่งสามารถกระทำได้ นอกจากนี้เสรีภาพการพูด ยังเป็นปัจจัยสำคัญซึ่งผลักดันให้โลกของเรา พัฒนาในทุกๆ ด้าน ทั้งทางด้านวิชาการรวมทั้งผลประโยชน์โดยทั่วไป เนื่องจากการที่มีบุคคลหลากหลายฝ่ายนำความคิดเห็นอันแตกต่างกันมาอภิปรายอย่างเสรีแล้ว เป็นการนำไปสู่ทางเลือกในการแก้ปัญหา รวมทั้งหาทางพัฒนาที่กว้างไกลและมีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีต ดังนั้นคุณจะเห็นได้ว่า ถ้ามีการปิดกั้นเสรีภาพในการพูดแล้ว ก็จะทำให้ความคิดบางอย่างถูกปิดกั้นตามไปด้วย แต่พลเมืองไม่อาจรับรู้ได้ เพราะไม่มีเสรีภาพนั่นเอง